คุณประโยชน์ของบิลเบอร์รี่ และดอกดาวเรือง
บิลเบอร์รี่ สุดยอดสารสกัดจากธรรมชาติเพื่อดวงตา
บิลเบอร์รี่มีสารอาหารที่จำเป็นหลายชนิดจึงอาจช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับร่างกายในด้านต่อไปนี้
1. ต้านอนุมูลอิสระ
อนุมูลอิสระ หรือ Free Radicals เป็นสารชนิดหนึ่งที่เกิดขึ้นภายในร่างกายตามธรรมชาติ เมื่อมีจำนวนมากขึ้นอาจทำให้ร่างกายขาดสมดุลจนนำไปสู่การอักเสบและการเสื่อมของร่างกาย ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงของโรคบางอย่าง บิลเบอร์รี่เป็นผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidants) สูง คุณสมบัติของสารต้านอนุมูลอิสระ คือ การเข้าไปจัดการและควบคุมอนุมูลอิสระให้อยู่สภาวะที่สมดุลและไม่สร้างความเสียหายต่อเซลล์ภายในร่างกาย ดังนั้นการได้รับสารต้านอนุมูลอิสระอย่างเพียงพอและสม่ำเสมอก็อาจช่วยยับยั้งกระบวนการเสื่อมและอักเสบของเซลล์ภายในร่างกายได้
รายงานทางวิทยาศาสตร์จำนวนไม่น้อยชี้ว่าการได้รับสารต้านอนุมูลอิสระอย่างเหมาะสมเป็นประจำอาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรังหลายโรค เช่น โรคหัวใจ โรคตับ โรคเบาหวาน และโรคมะเร็ง อย่างไรก็ตาม การได้รับสารต้านอนุมูลอิสระจากการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการมีสุขภาพดีและลดความเสี่ยงของโรคเท่านั้น
2. บำรุงหัวใจและหลอดเลือดให้แข็งแรง
โรคหัวใจและหลอดเลือดเป็นโรคเรื้อรัง โรคนี้เกิดได้จากหลายปัจจัย ซึ่งการอักเสบของหลอดเลือดและกล้ามเนื้อหัวใจก็อาจทำให้ความเสี่ยงของโรคเพิ่มขึ้น ส่วนสาเหตุของการอักเสบอาจมาจากอนุมูลอิสระที่เพิ่มขึ้น ไม่ใช่เฉพาะที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ แต่การสูบบุหรี่ การรับประทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์ และโรคประจำตัวอื่น ๆ อาจกระตุ้นให้เกิดการอักเสบและเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด
ประโยชน์ของบิลเบอร์รี่อาจครอบคลุมถึงการปกป้องหัวใจให้ห่างไกลจากโรคหัวใจได้ด้วย เนื่องจากปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระที่ค่อนข้างสูงและหลากหลายจึงอาจลดความเสียหายจากการอักเสบได้ การศึกษาชิ้นหนึ่งศึกษาเกี่ยวกับประสิทธิภาพของวิตามินซีกับสรรพคุณลดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดหัวใจ โดยให้ผู้เข้ารับการทดลองส่วนหนึ่งรับประทานวิตามินซีอย่างน้อย 700 มิลลิกรัมต่อวันและคนอีกส่วนหนึ่งเป็นกลุ่มที่ไม่ได้รับวิตามินซี
ภายหลังพบว่ากลุ่มที่ได้รับวิตามินซีมีความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดหัวใจน้อยกว่ากลุ่มคนที่ไม่ได้รับ อย่างไรก็ตาม การศึกษานี้ไม่ได้พูดถึงผลข้างเคียงจากการใช้วิตามินซีในปริมาณดังกล่าวติดต่อกันนาน อีกทั้งการศึกษายังใช้เวลานานหลายปีจึงอาจมีปัจจัยอื่นที่ส่งผลต่อการศึกษาได้
หลักฐานทางวิทยาศาสตร์จำนวนหนึ่งชี้ว่าการได้รับแอนโทไซยานินที่พบได้ในบิลเบอร์รี่และผลไม้ในตระกูลเบอร์รี่ติดต่อกันหลายสัปดาห์อาจช่วยลดระดับของคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL: Low-Density Lipoproteins) และเพิ่มปริมาณของคอเลสเตอรอลชนิดดี (HDL: High-Density Lipoproteins)
คอเลสเตอรอลเป็นคำที่ใช้เรียกไขมันในเลือดชนิดหนึ่ง คอเลสเตอรอลส่งผลต่อสุขภาพได้ไม่น้อย โดยเฉพาะสุขภาพหัวใจ หากปริมาณคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดีสูงติดต่อกันอาจเพิ่มความเสี่ยงของการสะสมของไขมันในผนังหลอดเลือดทำให้เกิดโรคความดันโลหิตสูงและทำให้หลอดเลือดหัวใจตีบตันได้ ดังนั้นการได้รับแอนโทไซยานินจากบิลเบอร์รี่จึงอาจช่วยลดปัจจัยเสี่ยงของโรคหัวใจในข้อนี้ได้ แต่การศึกษาในสัตว์บางส่วนไม่พบความแตกต่างระหว่างกลุ่มตัวอย่างที่ได้รับและไม่ได้รับแอนโทไซยานิน
บิลเบอร์รี่ยังมีวิตามินเคที่มีส่วนรักษาการทำงานของระบบไหลเวียนของเลือดและการควบคุมการแข็งตัวของเลือดจึงอาจช่วยลดความเสี่ยงของภาวะหัวใจขาดเลือดและโรคหลอดเลือดสมองที่เกิดจากการอุดตันของหลอดเลือด
3. บำรุงสายตาและลดความเสี่ยงของโรคต้อหิน
ดวงตาเป็นอวัยวะที่สำคัญต่อการใช้ชีวิตอย่างขาดไม่ได้ แต่อายุที่เพิ่มขึ้นและปัจจัยอื่น ๆ อาจส่งผลให้ดวงตาเสื่อมลงและเสี่ยงต่อโรคตาบางชนิดมากขึ้นได้ การทดลองทางวิทยาศาสตร์จำนวนหนึ่งพบประโยชน์ของบิลเบอร์รี่ต่อสุขภาพดวงตา เช่น ลดอาการตาล้า ตาแห้ง ปวดศีรษะ และตาพร่า
ลดความเสี่ยงของโรคต้อหิน ซึ่งเป็นโรคที่อาจส่งผลต่อการมองเห็นได้ หากไม่ได้รับการรักษา แต่ประโยชน์ของบิลเบอร์รี่ในรูปแบบอาหารเสริมกับการบำรุงสายตายังจำเป็นต้องได้รับการศึกษาเพิ่มเติมอีกมากเพื่อยืนยันถึงประโยชน์ดังกล่าว
นอกจากสรรพคุณเหล่านี้ บิลเบอร์รี่และอาหารเสริมบิลเบอร์รี่ยังได้รับการศึกษาเกี่ยวกับประโยชน์ต่อสุขภาพอื่น ๆ อีกมาก แต่ก็ล้วนอยู่ในช่วงของการทดลองและยังไม่ได้รับการยืนยันถึงประโยชน์ที่แน่ชัด ดังนั้นหากต้องการใช้อาหารเสริมบิลเบอร์รี่ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้และไม่ควรใช้เพื่อหวังผลในการรักษาหรือป้องกันโรค หากเจ็บป่วย ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจและรับการรักษาที่เหมาะสม